ดูแลแบตเตอร์รี่รถยนต์ของคุณ..ให้ทนทานและคุ้มค่าที่สุด!!
ไม่ว่าแบตเตอรี่ที่ใช้จะเป็นแบบแห้งหรือแบบที่ต้องเติมน้ำกลั่นก็นตาม การดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ มีการตรวจเช็คซักเดือนละครั้งเป็นอย่างน้อยหรือตอนที่เปิดฝากระโปรงก็ควรตรวจเช็คมันก็ดูๆมองๆมันบ้าง เพราะมันก็ไม่ได้ใช้เวลามากมายอะไรในการตรวจเช็ค โดยดูแลสภาพภายนอกในส่วนที่สัมผัสได้คือ
การดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ ให้ทนทานและคุ้มค่าที่สุด
1. ตรวจสอบสภาพภายนอกของแบตเตอรี่
*การดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ อย่าให้มีรอยแตกร้าว เพราะจะทำให้แบตเตอรี่จะไม่เก็บประจุไฟฟ้า
*การบวมหรือเสียรูปของแบตเตอรี่ เกิดจากความร้อนหรือการประจุไฟเกินหรือการระบายแรงดันไม่ดี
*แบตแตกร้าว ต้องดูว่ามีร่องรอยการซึมออกมาของกรดหรือของเหลวที่บรรจุภายในหรือเปล่า ในจุดที่ไม่ใช่รูระบายอากาศหรือช่องหายใจ เช่นตามขอบ-ด้านข้าง-ฝาครอบ หรือความเสียหายของแบตเนื่องจากการประจุแรง-ระบายแรงดันภายในไม่ทันหรือแม้แต่การรัดของตัวยึดที่แน่นเกินไป
*ขยับดูตัวแบตเตอรี่ว่าติตกัฐานแน่นพอดีหรือไม่ เอาแค่ตึงมือเพราะการขันตัวล็อคให้แน่นเกินไป โดยเฉพาะชนิดที่เป็นเหล็กพาดผ่านตัวแบตนั้นเป็นสาเหตุหนึ่งของแบตเตอรี่บวมหรือแตกร้าวได้
2. ดูแลขั้วแบตเตอรี่ให้สะอาดเสมอ
*การดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ ถ้ามีคราบเกลือหรือสกปรกเกิดขึ้น ให้ทำความสะอาด
*ขยับดูขั้วแบตเตอรี่ว่าแน่นดีหรือไม่ ถ้าขยับได้ควรขันให้แน่น
*เช็คว่าขั้วของแบตเตอรี่สกปรกหรือมีขี้เกลือเกาะติดหรือเปล่า กรณีที่ติดตั้งตรั้งแรกควรซื้อแผ่นรองขั้งแบตที่ชุบสารหล่อลื่นไส่ที่ขั้วแบตตั้งแต่แรก แต่ถ้าขั้วแบตสกปรกก็ควรทำความสะอาดด้วยการใช้น้ำอุ่นถึงร้อนค่อยๆเทราดลงไปที่ขั้งแบตแล้วใช้แปรงสีฟันเก่าขัดจนขั้วสะอาด จากนั้นเช็ดให้แห้งแล้วใช้จาระบีหรือวาสลีนทาบางๆให้ทั่วที่ขั้วแบตเตอรี่
3. ตรวจสภาพของระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่
*การดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ ตรวจระดับน้ำกลั่นให้ได้ตามระดับที่กำหนดในแบตเตอรี่
*ถ้าเป็นแบตชนิดที่ต้องเติมน้ำกลั่นควรเช็คและเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในช่วงระดับ ไม่ควรให้ระดับน้ำกลั่นต่ำกว่าขีดล่างสุดมากกว่า ๕ มม.หรือครึงซม.แม้ว่าระดับดังกล่าวของเหลวยังคงสูงกว่าแผ่นธาตุแต่ถ้ารถเอียงหรือทางลาดชันจะทำให้ระดับของเหลวไม่ท่วมแผ่นธาตุ และไม่ควรเติมสูงเกินไป จะทำให้ขั้วแบตสกปรกจากขี้เกลือเร็วขึ้นมาก
4. ตรวจเช็กระบบไฟชาร์จของอัลเตอร์เนเตอร์
*ตรวจสอบระบบไฟชาร์จต่ำหรือสูงไปไหม ถ้าต่ำไปจะมีผลทำให้กำลังไฟไม่พอใช้ในขณะสตาร์ตเครื่องยนต์ หรือถ้าสูงไปจะทำให้ น้ำกรดและน้ำกลั่นอยู่ภายในเดือดและระเหยเร็ว
5. ช่วงที่มีอากาศหนาวหรืออุณหภูมิต่ำ
*ประสิทธิภาพการแพร่กระจายของน้ำกรดและน้ำกลั่นจะด้อยลง เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้กระแสไฟมากๆ ขณะอากาศเย็น
6. ควรศึกษาถึงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ
*อุปกรณ์เสริมที่ใช้กำลังไฟเยอะ เช่น ระบบเครื่องเสียง ไฟตัดหมอก ฯลฯ ให้เหมาะสมกับแบตเตอรี่และไดชาร์จ เพื่อที่จะให้วงจรการไหลของไฟฟ้าเป็นไปด้วยดี
#อีซูซุประชากิจ_จันทบุรี
#เรื่องน่ารู้จากอีซูซุ
Credit By รักษ์รถดอทคอม
ติดตามข่าวสารได้ทาง
Facebook : https://www.facebook.com/prachakij/
LineID : @prachakij
web-site : www.prachakij.com