การเคลมประกันมีแบบไหนบ้าง?
เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ สิ่งที่เสียหายที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ รถยนต์ที่อยู่ในอุบัติเหตุ และตามความเข้าใจสิ่งแรกที่ผู้ขับขี่จะต้องทำ คือ รีบโทรแจ้งบริษัทประกันภัยที่ตนทำสัญญาด้วยทันที เพื่อให้พนักงานเข้ามาเจราจาไกล่เกลี่ย ไปจนถึงทำเรื่องเคลมประกันภัยรถยนต์ครับ แต่วิธีนี้ง่ายจริงแล้วหรือ? หลายท่านคงจะบอกว่าไม่ง่ายอย่างพูดนะครับ
การเคลมประกัน ให้ง่ายและรวดเร็วนั้น เป็นสิ่งที่ผู้ทำประกันทั้งหลายต่างใฝ่ฝัน เพราะส่วนใหญ่จะต้องเจอตั้งแต่พนักงานมาถึงที่เกิดเหตุช้า ตกลงกับคู่กรณีไม่ได้ ตกลงกับประกันฝ่ายคู่กรณีไม่ได้ ประกันภัยไม่ยอมจ่าย แถมขั้นตอนอื่นๆ ที่วุ่นวาย ยุ่งยากอีกมากมาย มาดูกันดีกว่าครับว่ามีวิธีไหนที่เราจะสามารถเคลมได้เร็ว เคลมได้ง่ายบ้าง
การเคลมประกัน มีกี่แบบ?
1. เคลมแห้ง
เคลมแห้ง หมายถึง การเคลมประกันรถยนต์ สำหรับรถที่เกิดเหตุมานานแล้ว แต่เพิ่งมาแจ้งเหตุกับบริษัทประกันภัยนั่นเองครับ เช่น มีรอยขูดขีด เนื่องจากการเฉี่ยวชน เป็นต้น โดยปกติแล้ว การเคลมแห้งมักจะเป็นการเคลมโดยไม่มีคู่กรณี ซึ่งจะทำให้ผู้เคลมประกันเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม บางครั้งอาจจะเป็นความประมาทของเรา บางครั้งอาจจะเป็นเพราะคนอื่นถอยมาชนบ้าง สาเหตุอื่นบ้าง ดังนั้น หากเกิดอุบัติเหตุและมีคู่กรณี คุณก็ควรรีบโทรแจ้งไปยังบริษัทประกันภัยในทันที พร้อมทั้งขอข้อมูลของพนักงานที่จะมาเคลมให้ด้วย เช่น ชื่อ-นามสกุล เบอร์ติดต่อกลับ เพื่อที่คุณจะได้ตามงานได้สะดวกครับ
อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการจะนำรถเข้าซ่อมที่อู่ คุณควรนำเอกสารต่างๆ ไปให้ครบถ้วนด้วย เช่น ใบขับขี่ กรมธรรม์และสำเนาทะเบียนรถ เป็นต้น
2. เคลมสด
เคลมสด หมายถึง เคลมที่รถชนกัน ณ ที่เกิดเหตุ และยังมีผู้เสียหายในเหตุการณ์รอพนักงานเคลมอยู่ที่เกิดเหตุ ซึ่งการเคลมประเภทนี้ ผู้ขับขี่จะได้รับใบหลักฐานเพื่อใช้การติดต่อเรื่องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะนำรถไปซ่อมศูนย์ครับ
3. เคลมความเสียหายมาก
เคลมความเสียหายมาก หมายถึง เคลมที่เพิ่งจะเกิดขึ้นสดๆ หรือเกิดขึ้นนานแล้ว แต่เสียหายมากและเพิ่งมาแจ้งเหตุครับ เช่น รถเสียหายจนขับไม่ได้นานมาเป็นอาทิตย์แล้ว แต่เพิ่งมาแจ้งเหตุ เป็นต้น
ทั้งนี้ ในระหว่างการเคลมนั้น พนักงานเคลมจะสอบถามข้อมูลต่างๆ ของผู้ขับขี่และคู่กรณี พร้อมทั้งให้คุณสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่าใครถูกใครผิด ซึ่งตรงนี้ ทั้งตัวคุณและคู่กรณีควรที่จะให้ความร่วมมือกับพนักงานครับ
ต่อจากนั้น พนักงานก็จะถ่ายรูปตัวรถ สถานที่เกิดเหตุ เป็นต้น จากนั้น เมื่อเคลมเสร็จแล้ว พนักงานเคลมก็จะสรุปผลทั้งหมดและให้ข้อมูลว่าคุณจะต้องดำเนินการต่อไปอย่างไรบ้าง ต้องนำรถไปซ่อมที่ไหน พร้อมทั้งสรุปค่าใช้จ่ายที่อาจจะมีเพิ่มเติม และพนักงานเคลมก็จะให้ใบเคลมเพื่อใช้ในการยื่นกับทางอู่หรือศูนย์ที่รับซ่อมครับ
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เมื่อเกิดเหตุและคุณเป็นฝ่ายถูก แต่รถของคู่กรณีไม่มีประกันภัย คุณควรกลับไปตรวจสอบข้อมูลกับบริษัทประกันภัยด้วยว่า ได้บันทึกข้อมูลอุบัติเหตุไว้ว่าอย่างไร คุณเป็นฝ่ายถูกหรือไม่ หลังจากที่คุณเคลมประกันแล้ว ซึ่งถ้าไม่มีการระบุไว้ คุณอาจจะต้องเสียค่าประกันเพิ่มขึ้นในปีถัดไปได้ครับ ดังนั้น สิ่งที่คุณต้องทำเพื่อให้การเคลมง่าย เป็นไปอย่างรวดเร็ว และไม่ผิดพลาดก็คือ
– หากเกิดเหตุรีบแจ้งพนักงานประกันมาตรวจสอบทันที
– หลังจากโทรแจ้งแล้วให้ขอข้อมูลพนักงานเคลมที่จะมาเคลมให้คุณ
– ในระหว่างที่รอพนักงานเคลมนั้น คุณควรเจรจาไกล่เกลี้ยกับคู่กรณีว่าใครผิดใครถูก
- หลังจากผ่านไปสักวันสองวันแล้ว ควรโทรไปสอบถามบันทึกที่พนักงานเคลมบันทึกเอาไว้ ว่าตรงตามความเป็นจริงหรือไม่
– หากไม่รู้ว่าคู่กรณีเป็นใคร หรือจำทะเบียนรถไม่ได้ ให้รีบโทรแจ้งตำรวจและบอกลักษณะของรถคู่กรณีเท่าที่จำได้
-อย่างไรก็ตาม หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาไม่ว่าจะร้ายแรงหรือเล็กน้อยก็ตาม สิ่งแรกที่ควรจะทำคือตั้งสติไว้ก่อนครับ จากนั้นค่อยลงมาตรวจสอบความเสียหายและเรียกประกันมาตรวจสอบ และไม่ควรใช้อารมณ์ในการเจรจาไกล่เกลี้ยกับคู่กรณีนะครับ เพราะจะทำให้เรื่องยากขึ้นครับ
#ศูนย์ซ่อมสีและตัวถังประชากิจ
* รับรถถึงบ้านบริการกันถึงที่
* บริการให้คำปรึกษาฟรี!
* ยินดีรับทุกบริษัทประกันภัย
* รถเล็ก รถใหญ่ ก็รับหมด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 089-939-9371
Line :: @pmgchan
Messager :: m.me/pmgchan